องค์ประกอบของดนตรี
แบบฝึกหัดเรื่อง องค์ประกอบของดนตรี เรื่องพื้นผิวของเสียง
 

1" ลักษณะหรือรูปแบบของเสียงทั้งที่ประสานสัมพันธ์และไม่ประสานสัมพันธ์ โดยอาจจะเป็นการนำเสียงมาบรรเลงซ้อนกันหรือพร้อมกัน ซึ่งอาจพบทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ตามกระบวนการประพันธ์เพลง" บทความนี้หมายถึงข้อใด
พื้นผิวเสียง
เสียง
พื้นฐานจังหวะ
ทำนอง

2Monophonic Texture หมายความถึงข้อใด
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่มีแนวทำนองเดียว ไม่มีเสียงประสาน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่ประกอบด้วยแนวทำนองตั้งแต่สองแนวทำนองขึ้นไป โดยแต่ละแนวมีความเด่นและเป็นอิสระจากกัน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียง ที่ประสานด้วยแนวทำนองแนวเดียว โดยมี กลุ่มเสียง (Chords) ทำหน้าที่สนับสนุน
เป็นรูปแบบของแนวเสียงที่มีทำนองหลายทำนอง แต่ละแนวมีความสำคัญเท่ากันทุกแนว

3ข้อใดเป็นรูปแบบการใช้แนวเสียงของดนตรีในยุคแรกๆ ของดนตรีในทุกวัฒนธรรม
Heterophonic Texture
Homophonic Texture
Polyphonic Texture
Monophonic Texture

4ในวัฒนธรรมดนตรีตะวันตก Monophonic Texture มีพัฒนาการมาจากสิ่งใด
เพลงสรรเสริญพระเยซู
เพลงสรรเสริญพระแม่มารี
เพลงสวดในศาสนพิธีของชาวคริสเตียน ซึ่งเรียกว่าเพลงชานท์ ( Chant หรือ Plainsong)
ถูกทุกข้อ

5ดนตรีแนวที่มีพื้นผิวเสียงแนว Monophonic Texture ถ้าเปรียบกับดนตรีไทยถือว่าอยู่ในกลุ่มเพลงใด
ขับร้องเพลงไทย
เดี่ยวซอด้วง
เดี่ยวปี่
ถูกทุกข้อ

6Polyphonic Texture หมายความถึงข้อใด
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่มีแนวทำนองเดียว ไม่มีเสียงประสาน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่ประกอบด้วยแนวทำนองตั้งแต่สองแนวทำนองขึ้นไป โดยแต่ละแนวมีความเด่นและเป็นอิสระจากกัน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียง ที่ประสานด้วยแนวทำนองแนวเดียว โดยมี กลุ่มเสียง (Chords) ทำหน้าที่สนับสนุน
เป็นรูปแบบของแนวเสียงที่มีทำนองหลายทำนอง แต่ละแนวมีความสำคัญเท่ากันทุกแนว

7 " มีวิวัฒนาการมาจากเพลงชานท์ (Chant) ซึ่งมีพื้นผิวเสียงในลักษณะของเพลงทำนองเดียว (Monophonic Texture) ภายหลังได้มีการเพิ่มแนวขับร้องเข้าไปอีกหนึ่งแนว แนวที่เพิ่มเข้าไปใหม่นี้จะใช้ระยะขั้นคู่ ๔ และคู่ ๕ และดำเนินไปในทางเดียวกับเพลงชานท์เดิม การดำเนินทำนองในลักษณะนี้เรียกว่า "ออร์กานุ่ม" (Orgonum)" บทความนี้หมายถึงข้อใด
Monophonic Texture
Polyphonic Texture
Homophonic Texture
Heterophonic Texture

8 Homophonic Texture หมายความถึงข้อใด
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่มีแนวทำนองเดียว ไม่มีเสียงประสาน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่ประกอบด้วยแนวทำนองตั้งแต่สองแนวทำนองขึ้นไป โดยแต่ละแนวมีความเด่นและเป็นอิสระจากกัน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียง ที่ประสานด้วยแนวทำนองแนวเดียว โดยมี กลุ่มเสียง (Chords) ทำหน้าที่สนับสนุน
เป็นรูปแบบของแนวเสียงที่มีทำนองหลายทำนอง แต่ละแนวมีความสำคัญเท่ากันทุกแนว

9"แนวทำนอง มักจะเคลื่อนที่ในระดับเสียงสูงที่สุดในบรรดากลุ่มเสียงเดียวกัน ในบางโอกาสแนวทำนองอาจจะเคลื่อนที่ในระดับเสียงต่ำได้เช่นกัน การเคลื่อนที่ของแนวทำนองจะเคลื่อนไปในแนวนอน แต่กลุ่มเสียง (Chords) ที่ทำหน้าที่สนับสนุน จะเคลื่อนไปในแนวตั้ง"
บทความนี้หมายถึงข้อใด
Monophonic Texture
Polyphonic Texture
Homophonic Texture
Heterophonic Texture

10Heterophonic Texture หมายความถึงข้อใด
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่มีแนวทำนองเดียว ไม่มีเสียงประสาน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียงที่ประกอบด้วยแนวทำนองตั้งแต่สองแนวทำนองขึ้นไป โดยแต่ละแนวมีความเด่นและเป็นอิสระจากกัน
เป็นลักษณะพื้นผิวของเสียง ที่ประสานด้วยแนวทำนองแนวเดียว โดยมี กลุ่มเสียง (Chords) ทำหน้าที่สนับสนุน
เป็นรูปแบบของแนวเสียงที่มีทำนองหลายทำนอง แต่ละแนวมีความสำคัญเท่ากันทุกแนว

11" ลักษณะการผสมผสานของแนวทำนองในลักษณะนี้ เป็นรูปแบบการประสานเสียงในวัฒนธรรมดนตรีไทย ในการบรรเลงดนตรีไทยแนวหลายแนว ซึ่งอาจจะบรรเลงโดยระนาดเอก ระนาดทุ้ม ขลุ่ย ต่างมีอิสระในการสร้างลีลาของทำนองตามธรรมชาติของเครื่องดนตรีแต่ละเครื่อง แต่จะต้องอยู่ในกรอบของทำนองหลัก (ลูกฆ้อง) ร่วมกัน" บทความนี้หมายถึงข้อใด
Heterophonic Texture
Homophonic Texture
Monophonic Texture
Polyphonic Texture